สารพิษอฟลาทอกซินที่ปนเปื้อนในเครื่องเทศ โดยสารพิษจากเชื้อรา (mycotoxin) คือสารพิษธรรมชาติที่สร้างจากเชื้อราเมื่อคนหรือสัตว์ได้รับสารพิษจากเชื้อราเข้าไปแม้ในปริมาณน้อยก็ทำให้เกิดอาการพิษ (mycotoxicosis) ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้โดยการใช้ยา อาการดังกล่าวไม่สามารถถ่ายทอดจากคนหนึ่งไปสู่คนอื่นได้และมีหลักฐานว่าอาการดังกล่าวเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีการปนเปื้อนของเชื้อราและสารพิษจากเชื้อรา การปนเปื้อนดังกล่าวเกิดขึ้นได้ตั้งแต่การเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว การเก็บรักษาและการนำผลิตผลทางการเกษตรมาผลิตเป็นอาหาร
สารพิษจากเชื้อราทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพร่างกายมากหรือน้อยขึ้นกับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความสมบูรณ์ของร่างกาย การดื่มสุรา การได้รับการรักษาด้วยยาบางชนิด อาหารที่รับประทาน เป็นต้น อาการพิษเกิดขึ้นเนื่องจากสารพิษจากเชื้อราเข้าไปทำลาย DNA, RNA และโปรตีน ทำให้เกิดพิษต่ออวัยวะต่าง ๆ แบ่งเป็น
- พิษต่อตับ (hepatotoxin) ได้แก่ อฟลาทอกซิน (aflatoxin)
- พิษต่อไต (nephrotoxin) ได้แก่ ออกคราทอกซิน (ochratoxin)
- พิษต่อระบบประสาท (neurotoxin) ได้แก่ พาทูลิน (patulin)
- พิษต่อระบบทางเดินอาหาร (alimentary tract toxin) ได้แก่ ไทรโครทิซิน (trichothecene)
- พิษต่อระบบฮอร์โมน (estrogenic mycotoxin) ได้แก่ ซีราลีโนน (zearalenone)
- พิษอื่น ๆ (other mycotoxin) ได้แก่ เออร์กอต (ergot)
สารพิษจากเชื้อราที่มีการศึกษากันแพร่หลาย คือ อฟลาทอกซิน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่ตับและอวัยวะอื่น ๆ เช่น ไต ระบบหายใจ ระบบทางเดินอาหาร ระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และระบบภูมิคุ้มกัน สร้างจากเชื้อราตระกูล Aspergillus เช่น A. flavus, A. parasiticus อฟลาทอกซินเรืองแสงได้เมื่อส่องดูภายใต้แสงอัลตราไวโอเลตโดยอฟลาทอกซินบีและเอ็มจะเรืองแสงสีฟ้า อฟลาทอกซินจีเรืองแสงสีเขียว อฟลาทอกซินทนความร้อนได้สูงถึง 260° C และคงตัวในสภาพที่เป็นกรดแต่จะสลายตัวในสภาพที่เป็นด่าง นอกจากนี้ยังสลายตัวภายใต้แสงอัลตราไวโอเลต
อฟลาทอกซินละลายน้ำได้เล็กน้อยเมื่อเข้าสู่ร่างกาย บางส่วนจะถูกขับออกในรูปเดิม บางส่วนจะถูกขบวนการของร่างกายเปลี่ยนแปลงเป็นสารตัวอื่น (metabolites) ซึ่งมีพิษมากขึ้นหรือน้อยลงก็ได้ ซึ่งสารดังกล่าวจะถูกสะสมในร่างกายบางส่วนถูกขับออกทางปัสสาวะ อุจจาระและทางน้ำนม สาร metabolite ที่มีพิษมากที่สุด คือ aflatoxin B1-2, 3-epoxide ซึ่งจะไปจับกับ DNA, RNA ทำให้การสังเคราะห์โปรตีนในเซลล์ผิดปกติ และทำให้เกิดมะเร็งที่ตับ สาร metabolite ที่ถูกขับออกทางน้ำนมเช่นที่พบในนมโคคือ อฟลาทอกซิน เอ็ม1 (aflatoxin M1) สามารถทำให้เกิดมะเร็งตับเช่นเดียวกับอฟลาทอกซินบี ซึ่งปนเปื้อนในอาหารที่โคกินเข้าไปในร่างกายแต่พิษน้อยกว่าอาการที่แสดงออกเมื่อสัตว์ต่าง ๆ เช่น ไก่ หมู วัว ได้รับอฟลาทอกซินที่ปนเปื้อนในอาหารเข้าไปในร่างกาย คือ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด มีน้ำไหลออกจากจมูก ดีซ่าน ท้องมาร ตกเลือดตาย
นอกจากนี้ปริมารการปนเปื้อนของอฟลาทอกซินในผลิตผลทางการเกษตรยังถูกนำมาใช้เป็นเครื่องต่อรองราคาในการซื้อขายผลิตผลดังกล่าวทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศ ทำให้แต่ละประเทศกำหนดค่าการปนเปื้อนของอฟลาทอกซินในอาหารต่าง ๆ ไม่เท่ากัน การกำหนดดังกล่าวทำให้เกิดความสับสนและการได้เปรียบเสียเปรียบทางการค้าระหว่างประเทศ ในปัจจุบันองค์การระหว่างประเทศที่มีชื่อเรียกย่อ ๆ ว่า โคเด็กซ์ (Codex Alimentarius Commission) กำหนดให้มีการปนเปื้อนของอฟลาทอกซินในถั่วลิสงที่ต้องนำไปผ่านขบวนการต่อไปได้ไม่เกิน 15 พีพีบี ทั้งนี้เพื่อปกป้องสุขภาพอนามัยของผู้บริโภค และให้ความเป็นธรรมในด้านการค้าระหว่างประเทศซึ่งองค์การการค้าโลกหรือ WTO (World Trade Organization) ได้ใช้ค่าดังกล่าวเป็นบรรทัดฐานในการเจรจาเมื่อเกิดปัญหาทางการค้าระหว่างประเทศ
บทความนี้นำเสนอการปนเปื้อนของอฟลาทอกซินในเครื่องเทศซึ่งใช้เป็นเครื่องปรุงรส อาหารให้มีความอร่อยและช่วยในการเจริญอาหาร เครื่องเทศดังกล่าวได้แก่ พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า พริกไทย กระเทียม หอมแดง น้ำพริกเผา ซีอิ๊ว น้ำจิ้มสะเต๊ะ เมื่อเก็บเครื่องเทศดังกล่าวอย่างไม่ถูกวิธีเช่นเก็บในที่มีความชื้นสูง เก็บในที่อุณหภูมิสูง เก็บไว้นานเกินไป เมื่อมีเชื้อราขึ้นก็จะเกิดการสร้างอฟลาทอกซินปนเปื้อนในเครื่องเทศและรวมไปถึงอาหารต่าง ๆ ที่ปรุงขึ้นจากเครื่องเทศดังกล่าวด้วย เมื่อบริโภคอาหารเหล่านั้นเป็นประจำทำให้เกิดมะเร็งตับได้
ในการเลือกซื้อพริกก็ควรเลือกร้านที่เชื่อถือได้ ก่อนอื่นก็อาจหยิบพริกแห้งมาลองหักดูด้านในก่อนว่าเกิดเชื้อราหรือไม่ ก่อนทำการซื้อต่อไป
ที่มาจาก webdb.dmsc.moph.go.th
กล้วยไม้
กล้วยไม้ป่า การเพาะเลี้ยง
กล้วยไม้ป่า มาจากป่า การนำมาเลี้ยงควรคำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับการที่กล้วยไม้อยู่ ซึ่งในป่ากับในบ้านหรือสวน
สาระน่ารู้ด้านเกษตร
การเกษตรแบบชีวพลวัตร กับระบบเกษตร
รูปแบบของการพัฒนาการเกษตรแนวใหม่ แนวทางการเกษตรแบบองค์รวม งานเกษตรแนวมนุษยปรัชญาหรือที่เรียกว่า เกษตรชีวพลวัต จากการเกษตรเคมีและอินทรีย์ เป็นการพัฒนาระบบฟาร์มอินทรีย์
สาระน่ารู้ด้านเกษตร
การดูกล้วยด่าง ว่าแท้หรือไม่ ทำอย่างไร
ขั้นตอนในการดูว่า กล้วยด่าง ที่ซื้อมานั้น แท้หรือเทียม มีเทคนิคการตรวจสอบไม่ยาก เพราะตำแหน่งและความแตกต่างกันระหว่าง
สาระน่ารู้ด้านเกษตร
เกษตรแนวใหม่ ยั่งยืน
เกษตรแนวใหม่ ทำได้แบบยั่งยืน จากการคาดคะเนจากหลายๆ ฝ่าย ต่างมองไปในทางเดียวกันว่าพิษเศรษฐกิจโลกที่กำลังตกต่ำนั้น ส่งผลกระทบรุนแรงเป็นอย่างยิ่ง
เทคนิคการทำเกษตร
โคกหนองนาโมเดล หรือแค่ศิลปะในการขุดบ่อ
บทความของโมเดลนี้มีความนิยมกันมากช่วงปลายปี 63 รวมทั้งต่อจากนั้นก็กลายเป็นแค่กระแส ใครอยากทำอะไรก็ได้อิสระโดยไม่ได้อิงจุดประสงค์หลักที่ถูกต้อง
เทคนิคการทำเกษตร
ไผ่ตงลืมแล้ง แนะนำการปลูกเพื่อสร้างรายได้
ใครไม่รู้จัก ไผ่ตงลืมแล้ง ยกมือขึ้น ไผ่ชนิดนี้มีหลายชื่อเรียกด้วยกัน เช่น ไผ่กิมซุง ไผ่ลืมแล้ง ตงลืมแล้ง ไผ่บีเซย์
สาระน่ารู้ด้านเกษตร
ทางรอด AEC กับเกษตรอินทรีย์
ในปี พ.ศ.2558 กำแพงภาษีของสินค้าเกษตรในกลุ่มประเทศอาเซียนจะลดลงเป็นศูนย์ ทว่าการยกเลิกกำแพงภาษีและอุปสรรคทางการค้าหลังรวมกลุ่ม AEC นำมาซึ่ง โอกาสและภัยคุกคาม ต่อเกษตรกรไทยโดยทั่วไปอย่างยิ่ง หากเกษตรกรยังคงพึ่งพาสารเคมี มีแนวโน้มว่าจะไม่มีตลาดรองรับสินค้าปนเปื้อนเหล่านี้ และไม่อาจแข่งขันกับสินค้าปลอดสารพิษอื่นได้
สาระน่ารู้ด้านเกษตร
ต้นสนทะเล กันคลื่นลมแนวชายฝั่ง
สนทะเล บทความเรื่องนี้น่าสนใจอย่างยิ่งที่จะหยิบยกมาเล่าในวันนี้ เนื่องจากไม้ชนิดนี้
สาระน่ารู้ด้านเกษตร
วิถีพอเพียง สู่การท่องเที่ยว
ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ปี 2555 นี้ มีหลายคนได้มีโอกาสที่จะได้ไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มเกษตรกรเอง ที่ต้องทำงานหนักในหลายรูปแบบ ต่างก็มีร่างกายที่ต้องการพักผ่อนกันทั้งนั้น โดยพื้นที่ภาคเหนือ