สถานการณ์นี้ ทั่วโลกก็แทบไม่ต่างจากคนไทยซักเท่าไหร่ ที่ในปัจจุบัน วิถีชีวิตของการกินเพื่อสุขภาพ ได้ถูกหยิบยกมาพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง
เพราะต่างก็ใส่ใจกับการกินผักผลไม้เพื่อสุขภาพกันมากขึ้น โดยที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเองก็มีโครงการ Five a Day รณรงค์ให้คนอเมริกันหันมากินผักผลไม้ให้ได้อย่างน้อย 5 ส่วนต่อวัน หรือองค์การอนามัยโลกและองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติที่รณรงค์ให้ประชากรโลกกินผักและผลไม้อย่างน้อยวันละ 400-500 กรัม
สำหรับบ้านเรา มีการตั้งเป้าเอาไว้แทบไม่ต่างจากประเทศอื่น จากข้อมูลการศึกษาเรื่อง การบริโภคผักผลไม้ของคนไทย โดย รศ.พญ.เยาวรัตน์ ปรปักษ์ขาม, รศ.พญ.พรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์ และคณะ ในรายงานสถานการณ์สุขภาพประเทศไทย ฉบับที่ 15 ของสำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ ได้กล่าวไว้ว่า ปริมาณการกินผักผลไม้ที่เหมาะสมสำหรับคนอายุ 15 ปีขึ้นไปว่าควรกินวันละ 400-600 กรัม
ทำไมคนไทย ถึงกินผักน้อย
เปิดสถิติคนไทยกินผักเท่าไหร่ จากการสำรวจข้อมูลจริง พบว่าคนไทยกินผักและผลไม้ต่ำกว่าควรจะเป็นและต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานอย่างมาก โดยชายไทยกินผักผลไม้เพียง 268 กรัมต่อวัน ส่วนหญิงไทยกินผักผลไม้เพียง 283 กรัมต่อวัน ซึ่งยังไม่ถึงครึ่งของการกินผักผลไม้ขั้นต่ำด้วยซ้ำ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า เหตุใดคนไทยจำนวนมากจึงประสบกับปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นจากการกินอาหาร
จากสถานการณ์การกินผักผลไม้ของคนไทยยังคงปฏิเสธไม่ได้ว่าคนส่วนใหญ่กินผักต่ำกว่ามาตรฐาน ทั้งๆ ที่เราก็ทราบถึงประโยชน์ของผักเป็นอย่างดี ส่วนสาเหตุน้ำเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจได้ ไม่ว่าจะเป็นในด้านราคาผัก กลิ่นของผักแต่ละชนิด รสชาดของผักผลไม้ ความยุ่งยากในการปรุง ล้วนแต่ส่งผลต่อปริมาณการกินผักผลไม้แทบทั้งสิ้น
มังสโภชนาการ สารพัดเนื้อเพื่อสุขภาพ ของคุณทัทยา อนุสสร สวนกระแสการกินผักเพื่อสุขภาพไว้อย่างน่าสนใจ เธอกล้าที่จะบอกว่าการกินเนื้อสัตว์ ดีต่อสุขภาพได้เช่นเดียวกับการกินผัก แต่ต้องกินให้เป็น ในหนังสือไม่ได้บอกว่าเนื้อสัตว์มีคุณค่าเท่ากันหรือเหมือนกันกับผัก บอกเพียงว่ามีคุณค่าบางอย่างแตกต่างกันไป
โดยผักมีสารอาหารมีวิตามินและกากใยมาก ขณะที่เนื้อสัตว์มีวิตามินและกากใยน้อยกว่า แต่ทดแทนด้วยโปรตีนที่มีอยู่มาก ข้อเสียของเนื้อสัตว์คือมีสารอาหารเกินความจำเป็นของร่างกายแถมมาให้ คือไขมันและคอเลสเตอรอลที่มากเกินความจำเป็น ก็เข้าใจไปถึงว่า กินเนื้อสัตว์ในปริมาณมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อร่างกายมากกว่าผลดี
ซึ่งเคล็ดลับในการกินเนื้อสัตว์เพื่อสุขภาพของคุณทัทยาได้บอกเอาไว้ว่า คนเราต้องการโปรตีนไม่เท่ากัน โดยแนะนำว่าให้กินเนื้อสัตว์ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ถ้ามีน้ำหนักตัว 60 กิโลกรัมก็ให้กินเนื้อสัตว์เพียง 60 กรัม ซึ่งก็เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายแล้ว ที่สำคัญ ต้องเลือกเอาจุดเด่นของเนื้อสัตว์แต่ละชนิดมาใช้ปรุงอาหาร อาหารบางอย่างเด่นในเรื่องแคลเซียม บางอย่างเด่นเรื่องวิตามิน การเลือกเนื้อสัตว์ที่มีคุณภาพดีมาใช้ในปริมาณที่เหมาะสมจึงเท่ากับเป็นการกินเนื้อสัตว์เพื่อสุขภาพ
ผู้เขียนเองมีทัศนคติกลางๆ ไม่ได้เน้นว่าจะผักหรือเนื้อ แต่หากกินแล้วสุขภาพร่างกายดีแข็งแรง ก็ไม่จำเป็นที่จะเน้นไปในทางหนึ่งทางใด เพราะอะไรที่เกินความพอดี ก็มีผลเสียตามมาด้วยเช่นกัน หลายท่านไม่ชอบทานผัก แต่ปัจจุบันผักอัดเม็ด ที่สกัดจากผักหลากหลายชนิด ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการได้รับสารอาหารจากผัก
อ้างอิง : Gourmet & Cuisine, Oct.2011
สถิติการรีวิวล่าสุด
คุณก็รีวิวบทความเราได้ แค่แชร์ แนะนำ หรือบอกต่อให้กับเพื่อนคุณ 💚
Best Infomal
โรงไฟฟ้าไร้มลพิษ
เมื่อไม่นานนี้รัฐบาลนอร์เวย์เปิดตัวโรงไฟฟ้าพลังดูดซึมแห่งแรกของโลก ซึ่งสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ
อ่านบทความนี้ต่อHow to
การผลิตผักสลัดไร้ดิน hydroponics
การผลิตผักสลัดแบบ Hydroponics ซึ่งมีคุณค่าและโภชนาการสูง ด้วยระบบพืชไร้ดิน ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ระบบผักไร้ดิน
อ่านบทความนี้ต่อBest Infomal
เกษตรทฤษฎีใหม่ กับการพัฒนาพื้นที่
เกษตรทฤษฎีใหม่ และการทำที่ดินเพื่อการพัฒนาพื้นที่ ให้เป็นและเหมาะสำหรับการทำเกษตร ดังตัวอย่างของคุณเปรียวจันทร์ ต๊ะต้นยาง
อ่านบทความนี้ต่อBest Infomal
ข้าววัชพืช หญ้าข้าวผี ที่น่าตกใจของชาวนา
ข้าววัชพืช สายพันธุ์จากข้าวป่าที่ผสมกับข้าวปลูก กลายเป็นข้าวผี ที่ชาวนาไม่ต้องการ
อ่านบทความนี้ต่อHow to
การปลูกหน่อไม้ฝรั่ง ในแบบเกษตรอินทรีย์
พันธุ์หน่อไม้ฝรั่งที่เกษตรกรใช้ในการปลูกมีหลายสารพันธุ์เช่น แม่รี่วอชิงตัน (Marywashington) , แคลิฟอร์เนีย 500 (Califormia 500) ,
อ่านบทความนี้ต่อBest Infomal
ข้าวไร่พันธุ์สามเดือน ทนแล้ง โตเร็ว
ข้าวไร่พันธุ์สามเดือน ข้าวที่ทนแล้งได้ดี และปลูกได้ทุกพื้นที่ของประเทศไทย โตเร็ว ให้ผลผลิตสูง เหมาะกับยุคเศรษฐกิจตอนนี้ที่สุด
อ่านบทความนี้ต่อ