การใช้ขมิ้นชัน มาทำเป็นยารักษาโรค

วันก่อนแนะนำเรื่องการปลูกขมิ้นชัน กันไปเรียบร้อยแล้ว วันนี้ก็เลยแนะนำ เรื่องประโยชน์อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญ ที่จะต้องมีขมิ้นชัน ไว้ติดบ้านกันทุกครัวเรือน เพราะไม่ใช่แค่เพียงมีคุณค่าทางเครื่องแกงและยังอร่อย ปลูกง่าย ขายได้คล่องแล้ว ขมิ้นชัน ยังมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย โรคอะไรนั้น ลองมาดูกัน

ประโยชน์และสรรพคุณของขมิ้นชัน ที่ควรมีไว้ติดบ้าน

ด้วยประโยชน์และสรรพคุณที่มีมากมาย จึงควรค่าแก่การนำมาเป็น สมุนไพรติดบ้าน จากพืชผักสวนครัวสู่พืชสมุนไพรของขมิ้นชัน พืชชนิดนี้น่าสนใจ เรามาดูกันว่าทำไมถึงต้องมีไว้ติดบ้าน

ขมิ้นชัน สรรพคุณช่วยรักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ

หลายคนอาจจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ว่าขมิ้นชันสามารถช่วยแก้ปัญหาโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบย่อยอาหารของเราได้ ก็เพราะว่าขมิ้นชันมีน้ำมันหอมระเหย (Volatile oil ) และสารเคอร์คูมิน (Curcumin)นั่นเอง ช่วยรักษาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ แน่นท้อง กินอาหารเข้าไปแล้วรู้สึกไม่ย่อย

วิธีใช้วิธีกินก็ไม่ยาก การกินขมิ้นชันสามารถกินได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับโรคและอาการที่ต้องการรักษา เช่น หากกินเป็นอาหาร หรือใช้ประกอบอาหาร ก็จะช่วยป้องกันโรคกระเพาะอาหาร ระบบย่อยอาหารได้ เเต่ถ้าอยากรักษาอาการกรดไหลย้อนให้นำมาขมิ้นชันมาต้ม กินในรูปแบบของยาน้ำ ต้มขมิ้นชัน 15 กรัม ใส่น้ำปริมาณท่วมตัวยา ต้มเดือด 15-30 นาที แล้วดื่มก่อนอาหาร จะทำให้ตัวยาดูดดซึมเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น

สุดท้ายแล้ว กินในรูปแบบของแคปซูล ปริมาณ 250 มิลลิกรัม 3 แคปซูล ก่อนอาหาร เช้า เที่ยง กลางวันเย็น จะช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร แต่ถ้ากินเพื่อแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ก็สามารถกินหลังอาหาร หรือเมื่อมีอาหารได้ทันทีเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ ขมิ้นชันที่อยู่ในรูปแบบผง เพื่อบรรจุแคปซูล จึงมีราคาค่อนข้างสูง

ขมิ้นชัน สมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยดับกลิ่นเท้า

ปัญหาเท้าเหม็นจะหมดไป เมื่อใช้ขมิ้นชัน เรื่องปัญหา เชื้อรา แบคทีเรีย ที่เกิดจากเหงื่อ และความอบร้อนในรองเท้าที่สวมใส่ ทำให้เกิดอาการคัน เป็นแผลผิวหนังลอกเปื่อย มีกลิ่นเหม็น การรักษานั้นง่ายมาก แต่ด้วยการใช้ยาทาเท้าที่ขายตามท้องตลาดทั่วไป ต้องใช้ต่อเนื่องเป็นปีๆ ไม่เช่นนั้นเชื้อจะดื้อยาทำให้เป็นๆ หายๆ แถมมีราคาแพง ด้วยเหตุนี้ คุณป้าพิลัย ศรีอำนาจ อดีตพยาบาลชำนาญการ ผู้ผันตัวเองมาศึกษาเรื่องของสมุนไพร ได้แนะนำวิะีการรักษาอาการของโรคเท้าเหม็น ด้วยขมิ้นชัน ไว้ คือ…

ภูมิปัญญาชาวบ้านที่ใช้สมุนไพรใกล้ตัวรันำมารักษาได้ผลเป็นอย่างดีโดยไม่มีผลข้างเคียงมีหลายชนิด เเต่ที่ได้ผลมากที่สุด คือ การใช้ขมิ้นชันที่ได้จากการหมัก (การหมักใช้ขมิ้นชันแช่กับน้ำเปล่าและเกลือเล็กน้อยแช่ไว้ประมาณ3 ช.ม) จนได้ เป็นน้ำส้มขมิ้นชัน เเล้วนำมาทาที่เท้า ก่อนใส่ถุงเท้าจะทำให้เท้าไม่เหม็น ไม่มีกลิ่นถึงแม้จะมีเหงื่อออกที่เท้ามาก และถุงเท้าก็ไม่เหม็นอีกด้วย อาการตุ่มคันแผลผิวหนังเปื่อย ก็จะหายไป เเต่ผู้ที่เท้าเหม็นจำเป็นต้องมั่นทำความสะอาดเท้าอยู่เป็นประจำเพื่อที่จะให้โรคนี้หายขาดได้โดยเร็ว

ขมิ้นชัน สรรพคุณที่สามารถรักษาโรคกระเพาะได้

นอกจากจะเป็นส่วนประกอบของอาหารจำพวก แกงเหลือง แกงกะหรี่ แกงไตปลา แล้ว ขมิ้นชัน มีส่วนช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร ได้อีกด้วย เพราะน้ำมันหอมระเหยในขมิ้นชัน มีสรรพคุณที่ช่วยลดอาการปวดท้อง บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียดและอาหารไม่ย่อย ภายใน เหง้าขมิ้นชัน ยังประกอบไปด้วยสารหลายชนิดที่มีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการจากโรคกระเพาะ

หนึ่งในนั้นคือสาร Curcumin ที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในลำไส้ และช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหาร และยังช่วย ลดอาการกรดไหลย้อน ได้อีกด้วย วิธีรับประทานขมิ้นชันจะใช้ในส่วนของเหง้าขมิ้น นำมาล้างให้สะอาด ฝานตากให้แห้ง แล้วนำไปบดเป็นผง ผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นก้อนสำหรับทาน 2-3 เม็ด หลังอาหาร

ขมิ้นชันมีสรรพคุณช่วยป้องกันมะเร็ง

แม้ว่าขมิ้นชัน จะมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ลดการอักเสบ และมีฤทธิ์ในการขับน้ำดี ที่ได้ผลดีแล้ว ขมิ้นชันยังเป็นตัวช่วยสำคัญ ที่สามารถ ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง โดยจะยับยัั้งการเติบโตและการกระจายตัวของเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งเม็ดเลือดขาว และมีบทบาทสำคัญในการต่อต้านโรคที่มีสาเหตุมาจากความเสื่อมของร่างกาย

แน่นอนว่ามีงานวิจัยหลายแห่งรองรับและนำ สมุนไพรชนิดนี้ ไปใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ทั้งแผนปัจจุบันและแผนโบราณกันอย่างแพร่หลาย เพราะขมิ้นชันจัดเป็นยาสมุนไพรรักษาโรคได้ดีอย่างยิ่ง

แล้วคุณจะไม่ลอง ปลูกขมิ้นชันไว้ติดบ้าน ซักหน่อยเหรอ?? ปลูกในกระถางก็ได้นะ